Nissan Altima เป็นรถยนต์ D-Segment ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 และมาในฐานะตัวแทนของ Teana
ซึ่งประเทศไทยมีคนให้ความสนใจมาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำตลาดต่อ ทั้งนี้พอครบอายุตลาดก็ต้องมีการ
ปรับหน้าตาใหม่เพื่อกระตุ้นความสดในรอบ 4 ปี คราวนี้บอกได้เลยว่า ปรับไม่เยอะนัก
สิ่งที่เปลี่ยนจากเดิมมีดังนี้
- กระจังหน้าทรงใหม่
- กันชนหน้าทรงใหม่
- ล้ออัลลอยทรงใหม่
- โลโก้นิสสันใหม่ (มาแบบยุคปัจจุบัน)
- ชุดเครื่องเสียงจอใหญ่ขึ้นจาก 8 นิ้วเป็น 12.3 นิ้วใหม่รองรับฟังก์ชั่นต่างๆทั้ง
- Apple Carplay/Android Auto ไร้สาย
- ระบบนำทาง Navigator
- รองรับการเชื่อมต่อ Wifi Hotspot
- ระบบเสียงจาก Bose 9 ลำโพง
- รองรับการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Amazon Alexa
- รองรับการเชื่อมต่อ NissanConnect
- รองรับวิทยุดาวเทียม SiriusXM
- เปลึ่ยนผ้าเบาะลายใหม่
- สีตัวรถใหม่
- สีเทา Gray Sky Pearl
- สีแดง Garnett Pearl Metallic
รุ่นย่อยมีให้เลือกดังนี้
- 2.5 S 2WD
- 2.5 SV 2WD/4WD
- 2.5 SR 2WD/4WD
- 2.5 SL 2WD/4WD
- 2.0T SR 2WD
ขุมพลังมีให้เลือกดังนี้
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 180 – 182 แรงม้า แรงบิด 244 – 247 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ
Xtronic CVT มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ 4 ล้อ - เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร VC Turbo 248 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตัน-เมตร จับคู่กับ
เกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
ทั้งนี้มีการปรับปรุงช่วยล่างและพวงมาลัยให้มีประสิทธิภาพขึ้น
ระบบความปลอดภัยมีดังนี้
- ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ProPilot พร้อมหยุดรถและเคลื่อนที่ได้เอง
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า/หลัง Intelligent Emergency Brake
- ระบบเตือนรถออกนอกเลนและช่วยให้รถอยู่ในเลน
- ไฟหน้าแบบปรับองศาการฉายได้ Adaptive LED Headlight System
- ไฟสูงเปิด/ปิดอัตโนมัติ High-Beam Assist
- ระบบเตือนมุมอับด้านข้าง Intelligent Blind Spot Infomation ตรวจจับผ่านเรดาร์
- ระบบเตือนมุมอับขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
- ระบบอ่านป้ายจราจรอัตโนมัติ
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor
- ระบบเตือนเมื่อมีอาการเหนื่อยล้าจากการขับขี่
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
เริ่มทำตลาดในสหรัฐอเมริกาในไตรมาส 3-4 ของปี 2022 เป็นต้นไป หลังจากนั้นเวอร์ชั่นจีนจะตามมา
พร้อมงานดีไซน์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง